[รีวิว-เรื่องย่อ] Doraemon: Stand by Me 2 (ドラえもん) – 2021 (★★★)

รีวิว นี้เป็นความเห็นส่วนตัว คะแนนที่ให้ทั้งหมดมาจากความประทับใจของตัวเองล้วนๆ ไม่สนกระแส ไม่สนบทภาพยนตร์ ไม่สนนักแสดง-ผู้กำกับเป็นใคร พล็อตซ้ำไม่ซ้ำก็ไม่สน ถ้ามันสนุกก็คือสนุก โอเคนะ

★★★ = สนุกมาก ประทับใจ อยากดูซ้ำหรือมีภาคต่อก็จะตามดูอีก
★★☆ = สนุกโอเคเลย
★☆☆ = ธรรมดา พอดูฆ่าเวลาได้
☆☆☆ (ไม่มีดาว ) = ไม่สนุก ดูไม่จบ ไม่อยากดูต่อ

ข้อมูลเบื้องต้น

  • ชื่อเรื่อง: STAND BY ME: ドラえもん 2
  • ชื่อเรื่องภาษาอังกฤษ: STAND BY ME: Doraemon 2
  • วันฉาย: 20/11/2020 (ญี่ปุ่น), 6/4/2021 (ไทย)
  • เว็บไซต์: https://doraemon-3d.com/

6 ปีหลังจาก Doraemon STAND BY ME ภาคแรกในปี 2014 ด้วยกระแสตอบรับที่ดีมาก แผนการทำโดราเอม่อน เดอะ มูฟวี่ 3D ภาค 2 ได้เกิดขึ้น ด้วยทีมงานที่เกือบจะเป็นชุดเดิมทั้งหมดเลย และเป็นการฉลองครอบรอบ 50 ปีโดราเอม่อนอีกด้วย (จริงๆ ต้องในปี 2020 นะ ประเทศไทยฉายช้ากว่าญี่ปุ่นนิดหน่อย)

สำหรับโดราเอม่อน เดอะ มูฟวี่ 3D ชุดนี้จะต่างจากโดราเอม่อน เดอะมูฟวี่แบบปกติที่จะออกเป็นแนวกลุ่มของโนบิตะออกไปผจญภัยในธีมต่างๆ เช่น ไดโนเสาร์ อาณาจักรใต้ทะเล หรือตะลุยอวกาศ ซึ่งเป็นแนวที่เด็กๆ น่าจะชอบกัน ... แต่สำหรับSTAND BY ME จะเป็นการหยิบโดราเอม่อนตอนสั้นแบบปกติ คัดเลือกเฉพาะตอนที่ซึ่งกินใจเป็นหลักมาเรียบเรียงใหม่เป็นตอนยาว ฉากต่างๆ ใครที่เป็นแฟนโดราเอม่อนน่าจะเคยอ่านผ่านตากันมาหมดแล้ว แต่ก็ทำให้เรานึกถึงวันเก่าๆ ความทรงจำดีๆ และความประทับใจกับเจ้าหุ่นยนต์แมวสีฟ้าจากโลกอนาคตตัวนี้ขึ้นมาเลย

ใน STAND BY ME ภาคแรกเนื้อเรื่องจะเน้นไปที่การปรากฎตัวของโดราเอม่อนและการลาจาก เน้นที่มิตรภาพระหว่างโดราเอม่อนและโนบิตะ ส่วนในภาค 2 นี้โครงเรื่องหลักจะอยู่ที่งานแต่งงานระหว่างโนบิตะและชิซุกะ และคุณย่าที่เสียไปแล้วของโนบิตะ แน่นอนว่าการเอาเนื้อเรื่องสองช่วงนี้มาผสมกันจะต้องมีการใช้ไทม์แมชชีนเข้ามาผสมด้วยแน่นอน

เรื่องย่อ

โนบิตะในโลกอนาคต ได้แต่งงานกับชิซุกะอย่างที่เขาวาดฝันเอาไว้ แต่เมื่อถึงวันแต่งงาน โนบิตะหายตัวไปจากงานแต่งงานซะอย่างงั้น

เมื่อโนบิตะพบตุ๊กตาหมีตัวเก่าที่เขาเคยเล่นสมัยเด็กอยู่ในห้อง ทำให้เขานึกถึงคุณย่าที่แสนใจดี พร้อมตัดสินใจชวนโดราเอมอนย้อนเวลากลับไปในอดีตเพื่อพบกับคุณย่าอีกครั้ง จนเมื่อคุณย่าเอ่ยปากว่า “อยากจะพบกับเจ้าสาวของโนบิตะ” โดราเอมอนและโนบิตะจึงเดินทางไปในวันแต่งงานที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ก่อนจะพบว่าโนบิตะในวัยผู้ใหญ่ได้หนีหายออกจากงานแต่งงานของเขากับชิซึกะไป โนบิตะและโดราเอมอนจึงต้องช่วยกันตามหาเพื่อทำให้ความฝันของคุณย่าเป็นจริง

งานภาพ

ปกติถ้าพูดถึงโดราเอม่อน ปกติแล้วเราจะนึกถึงอะนิเมชัน 2D ดังนั้นเมื่อเอาโดราเอม่อนมาปั้นโมเดลใหม่ในรูปแบบ 3D ทำให้ตัวละคนที่เราคุ้นเคยมีลักษณะที่เปลี่ยนไปนิดหน่อย ยิ่งภาคนี้มีตัวละครต่างๆ ในช่วงวัยผู้ใหญ่อยู่ในเนื้อเรื่องเยอะซะด้วย เช่นูเนโอะที่ปกติเราจะชินกับภาพปากแหลมและผมแหลมๆ ตอนวัยผู้ใหญ่ก็กลายเป็นตัวละครหัวฟูไปแทน

โดยรวมแล้วงาน 3D ถือว่าทำได้ดีเลย การเคลื่อนไหวอะไรก็ไม่ติดขัดอะไร อาจจะไม่ได้เหมือนจริงมาก แต่ก็ให้อารมณ์การ์ตูนดี

ที่ชอบมากที่สุดน่าจะเห็นโดราเอม่อนเวอร์ชัน 3D ที่ดูน่ารักน่ากอดมากๆ และดูเด้งดึ๋งได้นิดหน่อย เช่นการเข้าลิ้นชักเครื่องไทม์แมชชีนที่จริงๆ ช่วงทางเข้าน่าจะเล็กกว่าหัวของโดราเอม่อน แต่ม่อนก็ยัดตัวเองลงไปได้ (ฮา)

มีหลายๆ ฉากที่รู้สึกว่า CG ทำได้ดีมาก แม้จะไม่ได้ว้าวเท่ากับภาคที่แล้วที่เราได้เห็นโดราเอม่อนและเมืองโลกอนาตรแบบ 3D เป็นครั้งแรก ซึ่งทำให้เห็นว่า 3D ญี่ปุ่นก็ได้แพ้ทางฝั่งตะวันตกเช่นค่ายดีสนีย์หรือพิกซ่าแล้วนะ ที่ต่างกันคือลักษณะการเคลื่อนไหวของตัวละคร ดูยังง๊ายยังไงก็การ์ตูนอะนิเมะ (ถือเป็นข้อดีนะ)

ความรู้สึกหลังดู

ส่วนของเนื้อเรื่อง เราชอบภาคนี้มากกว่าภาคที่แล้วนะ ดูมีเนื้อเรื่องมากและซับซ้อนกว่า นำตอนที่น่าประทับใจที่ยังไม่ได้เอาไปใช้ตอนภาค 1 มาปะติดปะต่อเข้าด้วยกันและแต่งเสริมเข้าไปหน่อยได้ดีมาก

แต่ถ้านับระดับความซึ้ง จะเป็นคนละแนวกับภาคที่แล้ว ที่เน้นแต่มิตรภาพความเป็นเพื่อนระหว่างโนิบตะกับโดราเอม่อนอย่างเดียวเลย ภาคนี้จะเป็นความซ้ำแบบหวานมดขึ้นเกี่ยวกับความรักของโนบิตะกับชิซุกะแทน แต่ก็นะ เนื้อเรื่องมีการผจญภัยฟิลลิ่งเดิมๆ ของโดราเอม่อนอยู่เยอะ เลยทำให้ฉากซึ่งดูมีพลังน้อยลง ดังนั้นถ้าถามว่าภาคไหนซึ่งกว่า เราว่ามันซึ่งคนละแบบ แต่ส่วนตัวคิดว่าภาคที่แล้วซึ้งกว่า แต่เราชอบเนื้อเรื่องติดการผจญภัยแถมเล่นเกี่ยวกับเวลาของภาคนี้มากกว่านะ

ตัวละครหลักที่เรื่องว่าแบกทั้งเรื่องนี้ไว้ก็คือโนบิตะทั้งตอนเด็กและตอนผู้ใหญ่ ซึ่งรอบที่เราไปดูเป็นพากย์ญี่ปุ่นออริจินอลนะ แต่เห็นว่าพากย์ไทยมีคุณโต๋ ศักดิ์สิทธ์มาพากย์ (คู่กับชิซุกะตอนโตโดยคุณไบรท์ ที่ทั้งคู่เพิ่งแต่งงานกันในชีวิตจริงด้วย)

สุดท้ายถ้าถามว่าหนังน่าดูมั้ย? โดราเอม่อน STAND BY ME ค่อนข้างจะมีความเป็นผู้ใหญ่สูง (น่าจะสร้างมาสำหรับผู้ใหญ่ที่ตอนเด็กดูโดราเอม่อนและยังประทับใจกับมันอยู่) แต่เอาจริงๆ เด็กก็ดูได้ เป็นหนังสำหรับครอบครัวเลยล่ะ แค่สำหรับเด็กแล้วคิดว่าน่าจะชอบแนวเดิมๆ ของโดราเอม่อน เดอะ มูฟวี่ที่เป็นแนวผจญภัยบู๊ๆ มากกว่า แต่ถ้าคุณเป็นเด็กที่โตขึ้นมากับโดราเอม่อน ชอบโดราเอม่อน อ่านมาครบทุกตอน ไม่ควรพลาดเลย เพราะนอกจากจะได้เจอตัวละครเก่าๆ โผล่มาให้หายคิดถึงแล้ว ยังมีจังหวะ เอ๊ะ ฉากนั้นมาจากตอนนี้ โอ๊ะ ฉากโน้นมาจากตอนนั่นเด็มไปหมด


 

 -

-

-


Spoil Alert!
--- เนื้อหาส่วนต่อไปจะเล่าเรื่องทั้งเรื่อง มีสปอยล์นะ ---

-

-

-

เนื้อเรื่องแบบเต็ม (Full)

สำหรับโดราเอม่อนภาคนี้ มีทั้งการย้อนเวลาไปอดีต เดินหน้าไปอนาคต แล้วคนในอนาคตย้อนเวลากลับมาในอดีตเป็นหลายไทม์ไลน์มากๆ ใครไม่ถนัดการดูหนังแนวเล่นกับเวลาอ่านไปอาจจะมีงงบ้างนะ แต่เราได้ทำไทม์ไลน์ประกอบไว้ให้แล้วล่ะ

เปิดเรื่องมาด้วยการที่โนบิตะโดนแม่ดุ (อีกแล้ว) เพราะซ่อนกระดาษข้อสอบ 0 คะแนนเอาไว้ (นี่ก็อีกแล้ว) จนร้องไห้ขึ้นมาขอให้โดราเอม่อนช่วย ซึ่งขณะนั้นโดราเอม่อนกำลังวุ่นวายกับการเอาของวิเศษทั้งหลายออกมาเช็กและตรวจสภาพ

ในขณะนั้น มีพัสดุจากโลกอนาคตส่งมาให้โดราเอม่อน เป็นสินค้าตัวอย่างทดลองใช้ชื่อว่า "เชือกสลับวิญญาณ" โนบิตะเลยเกิดไอเดีย ขอให้โดราเอม่อนสลับร่างกับตัวเองแล้วไปฟังแม่บ่นให้แทน แน่นอนว่าโดราเอม่อนไม่ยอม

ในขณะที่กำลังเถียงๆ กันอยู่ ได้มีก้อนคล้ายๆ เมฆสีทองพุ่งออกมาจากลิ้นชักที่เป็นทางเข้าเครื่องไทม์แมชชีนพุ่งเข้าใส่โนบิตะก่อนที่โนบิตะจะล้มแล้วหมดสติลงไปแวบนึง

แล้วทันทีที่โนบิตะฟื้นขึ้นท่าทีของเขาก็เปลี่ยนไป พร้อมบอกว่า "ฉันเข้าใจเรื่องทั้งหมดแล้ว และฉันกำลังจะไปช่วยพวกเรา" ว่าแล้วโนบิตะก็กระโดดเข้าเครื่องไทม์แมชชีนแล้วขับออกไปทันที

ไม่นานหลังจากนั้น โนบิตะก็กลับออกมาจากลิ้นชักเครื่องไทม์แมชชีนด้วยท่าทีงงๆ พร้อมถามว่า "เกิดอะไรขึ้นกับฉัน ทำไมมีโนบิตะกับโดราเอม่อนอีกคนมาส่งฉันที่นี่"

แต่ก่อนจะได้สงสัยอะไรกันต่อแม่ของโนบิตะก็เดินขึ้นมาบอกว่าจะให้เขาออกไปซื้อของ แต่ตอนนั้นกระดาษผลสอบใบอื่นที่ได้ 0 คะแนนยังเกลือนอยู่ทั่วห้องเต็มไปหมด โนบิตะกับโดราเอม่อนเลยรีบเอากระดาษผลสอบพวกนั้นไปซ่อนไว้ในตู้ (ในจังหวะนี้เราจะเห็นโดราเอม่อนที่ใส่ผ้าคลุมล่องหนอีกม่อนหนึ่งกระโดดออกมาจากเครื่องไทม์แมชชีนแล้วมาหยิบอุปกรณ์บางอย่างกลับไปด้วย) ทำให้โนบิตะเจอกับตุ๊กตาหมีตัวหนึ่ง ซึ่งทำให้โนบิตะนึกกลับไปถึงตอนที่เขายังเด็กที่ทั้งขี้แยและเอาแต่ใจ แต่ก็มีคุณย่าคอยปลอบ

โนบิตะเลยคิดถึงคุณย่าที่เสียไปแล้วขึ้นมา เลยขอให้โดราเอม่อนพาย้อยเวลากลับไปหาตอนที่คุณย่ายังมีชีวิตอยู่ ตอนแรกโดราเอม่อนไม่ยอม พร้อมบอกว่าถ้าคุณย่าเห็นนายตอนโตแล้วจะไม่ตกใจเหรอ แต่โนบิตะก็อ้างว่าแค่ไปดูอยู่ห่างๆ ก็ได้ พร้อมทั้งลากโดราเอม่อนกระโดดเข้าเครื่องไทม์แมชชีนไป ทั้งที่โดราเอม่อนโวยวายว่าเขายังไม่ได้เก็บของวิเศษที่เอาออกมาเช็กสภาพเลยนะ

โนบิตะและโดราเอม่อนย้อนเวลากลับไป แต่โนบิตะดันไปเจอคุณย่ากำลังเดินกลับบ้านพอดี และได้เจอกับตัวเองตอนเด็กที่โมโหที่คุณย่าซื้อของเล่น (จำพวกไฟเย็นที่มีขายเฉพาะหน้าร้อน) มาให้ไม่ได้ แล้วต่อว่าคุณย่า โนบิตะตอนวัยเด็กโตเลยเข้าไปต่อว่าโนบิตะวัยเด็กเล็ก จนแม่ของโนบิตะลงมาเจอ และจะไล่โนบิตะไปเพราะเธอไม่รู้ว่าเด็กโตคนนี้เป็นใคร

โนบิตะเลยหนีเข้าไปในห้องหนึ่งซึ่งเป็นห้องของคุณย่าพอดี คุณย่าก็ช่วยให้ที่ซ่อนกับโนบิตะ แล้วโนบิตะก็บอกกับคุณย่าว่าเขาคือโนบิตะตอนโตที่ย้ายเวลากลับมา แล้วด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่คุณย่าก็บอกว่าคิดอยู่แล้วว่าเด็กคนนี้คือโนบิตะ ทั้งคู่ได้คุยกับ และคุณย่าก็ได้บอกออกมาว่าอยากเห็นโนบิตะสะพายกระเป๋านักเรียนไปโรงเรียนจังเลย โนบิตะก็จัดให้ พอคุณย่าเห็นแบบนั้นเลยขอต่ออีก ว่าอยากเห็นเจ้าสาวในอนาคตของโนบิตะจังเลย

โนบิตะก็บอกว่าได้เลย จะพาคุณย่าไป แต่ก่อนอื่นเพื่อความชัวร์ โนบิตะได้ขอทีวีกาลเวลาจากโดราเอม่อน แต่กลายเป็นว่าในงานแต่งงานของเขากับชิซุกะในอนาคต โนบิตะวัยผู้ใหญ่ได้หายตัวไปจากงานแต่งซะอย่างนั้น

โนบิตะเลยขอเวลาคุณย่าแป๊ปนึง เพื่อนั่งไทม์แมชชีนโลกอนาคตเพื่อจัดการเรื่องวุ่ยวายนี้

ในโลกอนาคต โนบิตะและโดราเอม่อนได้มาออกที่ห้องน้ำสาธารณะแห่งหนึ่ง เนื่องจากทั้งคู่รีบออกไปเลยไม่ทันเห็นว่าในห้องน้ำนั้นยังมีคนอีกคนอยู่ และได้เห็นทางเข้าไทม์แมชชีนพอดี (ถึงแม้จะเป็นอนาคต แต่อนาคตของยุคโนบิตะตอนโตก็ยังไม่มีไทม์แมชชีนนะ เอาจริงๆ ตามเส้นเวลาเรื่อง ยุคของโนบิตะตอนโตก็ใกล้ๆ กับยุคปัจจุบันของพวกเรานี้แหละ)

โนบิตะและโดราเอม่อนรีบไปที่จัดงานแต่ง คือโรงแรมปริ๊นเมล่อน และพบว่าในงานกำลังวุ่นวาย ทุกคนอยู่กันครบ ไจแอนท์ ซูเนโอะ พวกพ่อแม่ และแน่นอน ชิซุกะ .. โดราเอม่อนเลยบอกว่าให้โนบิตะตอนเด็กไปสวมรอยแทนก่อน ก็เลยใช้ผ้าคลุมกาลเวลาและกล้องเปลี่ยนเสื้อจัดการแปลงโฉมโนบิตะให้อยู่ในร่างตอนโตและชุดเจ้าบ่าว ส่วนโดราเอม่อนใช้ไฟฉายย่อส่วนย่อตัวเองแล้วบินตามโนบิตะเข้าไป

เมื่อชิซุกะได้เห็นโนบิตะ เธอถามว่าหายไปไหนมา โนบิตะเลยแก้ตัวว่าเขาหลงทาง

แล้วงานพิธีแต่งงานก็เริ่มขึ้น โนบิตะในตอนนี้เขาไม่พร้อมที่จะเป็นเจ้าบ่าวเลย (หรือแม้แต่แค่สวมรอยแทนก็ตาม) แค่เห็นชิซุกะเดินเข้ามา เขาก็แข็งกลายเป็นหินไปแล้ว (เป็นหินจริงๆ นะ ฮา) ชิซุกะก็เริ่มสงสัยแล้วว่าทำไมวันนี้โนบิตะทำตัวแปลกไป

จนถึงเวลาที่โนบิตะจะต้องกล่าวสุนทรพจน์ในงาน แน่นอนว่าเขาไม่ได้เครียมสคริปอะไรมาเลย จนในที่สุดโนบิตะวันเด็กก็ทนความกดดันไม่ได้แล้ววิ่งออกจากงานไปพร้อมบอกว่าจะไปเอาสคริปที่ลืมไว้ก่อน ในจังหวะนั้น ไจแอนท์เลยออกมาเปิดคอนเสิร์ทรอทำเอาแขกในงานสลบกันไป

โนบิตะรีบออกจากงานมากับโดราเอม่อนพร้อมบอกว่าต้องรีบไปตามหาตัวเขาตอนโดมาดีกว่า ในจังหวะที่ทั้งคู่กำลังออกจากโรงแรมอยู่นั้น เราจะเห็นคนกลุ่มนึงกำลังมองทั้งคู่อย่างลับๆ

โดราเอม่อนก็บอกว่าจริงๆ เขามีของวิเศษที่สามารถใช้ตามหาคนได้นะ นั่นคือ 'ไม่เท้าตามหาคน' แต่โนบิตะ นายลืมอะไรไปแล้วรึเปล่า เพราะนายลากฉันออกมาในขณะที่ยังไม่ได้เก็บของวิเศษเลย ไม้เท้านั้นเลยยังอยู่ที่บ้านในยุคปัจจุบันอยู่เลย โนบิตะกลัวว่าถ้ากลับไปเอาจะเสียเวลา แต่โดราเอม่อนก็บอกว่า งั้นตอนเรากลับมาใหม่เราก็แค่ย้อนกลับไปก่อนงานเริ่มซะก็สิ้นเรื่อง

แต่พอทั้งคู่กลับมาที่ห้องน้ำสาธารณะก็พบว่าช่องทางเข้าไทม์แมชชีนมันหายไปซะแล้ว โดราเอม่อนก็บอกว่าคนที่ใช้ไทม์แมชชีนในยุคนี้เป็นมีแค่คนเดียวเท่านั้นคือโนบิตะวัยผู้ใหญ่

แต่ตอนนี้งานเข้าทั้งคู่หนักกว่านั้น เพราะโดราเอม่อนแทนไม่ได้มีของวิเศษอะไรติดตัวอยู่เลย แต่ก็เหมือนโชคยังดีอยู่ เพราะในบรรดาของวิเศษที่โดราเอม่อนหยิบติดไม้ติดมือมาด้วยไม่กี่ชิ้นนั้นมี 'เครื่องส่งวิญญาณ' ที่สามารถดูดวิญญาณของคนหนึ่งออกมาแล้วส่งไปในช่วงเวลาไหนก็ได้ที่ต้องการ

โดราเอม่อนจึงดูดวิญญาณโนบิตะออกมาแล้วส่งกลับไปในช่วงก่อนที่ทั้งคู่จะใช้ไทม์แมชชีนย้อยเวลากลับไปหาคุณย่า นั่นคือสาเหตุว่าทำไมตอนแรกถึงมีก้อนอะไรก็ไม่รู้สีทองพุ่งออกจากลิ้นชักเข้าสิงโนบิตะนั่นเอง

โนบิตะเลยบอกว่าฉันเข้าใจแล้ว และฉันกำลังจะกลับไปช่วยพวกเรา .. โนบิตะใช้ไทม์แมชชีนมารับโดราเอม่อนและร่างของตัวเองในโลกอนาคต เมื่อโนบิตะคืนร่างเดิม โนบิตะอีกคนก็เลยงงว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมมีตัวเขาและโดราเอม่อนอีกคน โดราเอม่อนรำคาญเลยใช้ 'ไม้เท้าหลงลืม' กับโนบิตะในช่วงเวลาแรก แล้วพากลับไปส่งที่เดิม นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมตอนแรกโนบิตะถึงจำอะไรไม่ได้เลย

และในจังหวะนี้เอง เป็นจังหวะที่โดราเอม่อนใส่ผ้าคลุมล่วงหนออกไปหยิบไม้เท้าหลงลืมกลับเข้ามา แต่กลายเป็นว่าไม้เท้าหลงลืมกลับชี้ว่าโนบิตะตอนโตนั้นอยู่ในโลกยุคปัจจุบัน (ของโนบิตะวัยเด็กโต ไม่ใช่วัยผู้ใหญ่)

ทั้งคู่ตามหาโนบิตะตอนโตเจอ โนบิตะตอนโตก็บอกว่าที่หนีออกมาก็เคยเขารู้สึกว่าตัวเองไม่เหมาะกับชิซุกะเอาซะเลย ทั้งโง่และซุ่มซ่าม อยู่กับชิซุกะจะทำให้เธอเดือดร้อน

ซึ่งมีประเด็นจากภาคที่แล้วนิดหน่อย ตอนที่ชิซุกะกับโนบิตะตอนโต (ที่จริงๆ คือโนบิตะตอนเด็กใช้ผ้าคลุมกาลเวลา) ไปติดอยู่ในภูเขาหิมะ ที่ชิซุกะบอกว่า โนบิตะก็คือโนบิตะ ต้องมาค่อยเป็นห่วงและดูแล ทำให้คิดว่าที่ชิซุกะแต่งงานกับโนบิตะเพราะสงสารรึเปล่า

และโนบิตะบอกว่าเขาไม่ได้จะหนีจากงานแต่งนะ ออกจากห้องน้ำมาเจอไทม์แมชชีนพอดี เลยหนีมาสงบใจแป๊ปเดียว แล้วปุ่มโฮมของไทม์แมชชีนมันก็คือยุคนี้ แล้วเดี๋ยวก็จะใช้จะไทม์แมชชีนย้อยเวลากลับไปก่อนงานจะเริ่มเอง (จริงๆ ต้องเดินทางไปอนาคตละนะ) แต่พอดูทีวีกาลเวลา กลายเป็นว่าโนบิตะไม่ได้กลับไปที่งานเลย

โนบิตะทั้งสองช่วงเวลาเลยโทษกันไปมา โดราเอม่อนเลยบอกว่าให้โนบิตะตอนโตสลับตัวกับโนบิตะตอนเด็กจะได้ออกไปสงบใจซะหน่อยด้วย 'เชือกสลับวิญญาณ' โนบิตะตอนโตดูเหมือนจะชอบตอนที่เขาอยู่ในวัยเด็กมากๆ เขาออกไปวิ่งเล่นข้างนอกแบบไม่สนใจอะไร ปลดปล่อยทุกอย่าง ไปเจอเพื่อนๆ ในวัยเด็กอีกครั้ง

โนบิตะวัยเด็กที่ตอนนี้อยู่ในร่างของโนบิตะวัยผู้ใหญ่กับโดราเอม่อนได้กลับมาที่บ้านก่อน แล้วก็พบชายปริศนาคนหนึ่ง แต่งตัวคล้ายเชลล์ขายของ เขาบอกว่าเขามาจากห้างในโลกอนาคต (ยุคของโดราเอม่อนเลยนะ) เพื่อมาขอรับสินค้าตัวอย่างก็คือเจ้าเชือกสลับวิญญาณคืน โดราเอม่อนก็บอกว่าคืนให้ก็ได้ แต่พอให้โนบิตะสลับร่างคืนเหมือนเดิมก่อนนะ

เท่านั้นเอง ชายคนนั้นก็ร้องออกมาอารมณ์เหมือนแย่แล้ว!! เขาบอกว่าสินค้าชิ้นนี้มีบั๊ก หรือก็คือข้อผิดพลาด เขากำลังจะมาตามเก็บคีน โดยข้อผิดพลาดที่ว่าก็คือ ถ้าใช้เชือกนี้สลับร่างกันเกิน 1 ชม. ทั้งคู่จะสูญเสียความทรงจำทั้งหมดไปตลอดกาล .. หรือนี่ก็คือสาเหตุว่าทำไมโนบิตะไม่ได้กลับไปที่งานแต่งงาน เพราะเขาเสียความทรงจำทั้งหมดไปแล้วนั่นเอง

โนบิตะกับโดราเอม่อนก็เลยรีบออกตามหาโนบิตะวัยผู้ใหญ่ที่ตอนนี้กำลังไปมีปัญหากับกลุ่มนักเรียนมัธยมที่ดูเป็นนักเลงกลุ่มหนึ่ง ด้วยความที่เขานึกว่าเขาไปผู้ใหญ่อยู่ เลยไปสั่งสอนนักเลงกลุ่มนั้นเข้า ก็เป็นเรื่องเลย

ในขณะที่โนบิตะกำลังจะโดนนักเลงกลุ่มนั้นเล่นงาน ชิซุกะก็โผล่มาพร้อมบอกว่าอยากทำอะไรโนบิตะนะ โนบิตะเห็นดังนั้นจึงยอมไม่ได้เข้าต่อสู้กับนักเลงกลุ่มนั้นทันที แต่นอนว่าสู้ไม่ได้หรอก แต่ตอนนั้นไจแอนท์กับซูเนโอะก็โผล่เข้ามาช่วยพอดี พร้อมกับบอกว่า "คนที่แกล้งโนบิตะได้น่ะ มีแต่พวกเราเท่านั้น" แล้วทั้งสามคนก็ช่วยกันสู้กับนักเลงกลุ่มนั้นคนพวกนั้นยอมถอยไป

แล้วอยู่ๆ โนบิตะก็ล้มฟุบสลบไปเลย ใช่แล้ว มันเกิน 1 ชม.ไปแล้วหลังจากที่ทั้งคู่ใช้เชือกสลับร่างกัน ทางฝั่งโนบิตะวัยเด็กในร่างตอนโตก็สลบไปแล้วเช่นกัน โดราเอม่อนเพิ่งมานึกได้ว่าทำไมเขาไม่ใช้ประตูไปที่ไหนก็ได้หาโนบิตะตอนโตกันล่ะ

ในที่สุดโดราเอม่อนก็ลากโนบิตะตอนเด็กมาเจอกับโนบิตะตอนผู้ใหญ่จนได้ แต่ว่าเชือกสลับวิญญาณไม่ทำงานแล้ว มันสายไปแล้ว ความทรงจำทั้งคู่กำลังจะหายไปตลอดกาล! ความทรงจำดีๆ มิตรภาพและการผจญภัยของพวกเขา ยิ่งกว่านั้นคืองานแต่งงานในอนาคตก็จะไม่มีโนบิตะอีกต่อไป

แต่ตอนนั้นเองที่เครื่องเกิดใช้ได้ขึ้นมา เพราะโนบิตะที่สลบอยู่ทั้งคู่เหมือนจะได้ยินเสียงของโดราเอม่อน ทั้งคู่สลับร่างคืนกลับได้

เมื่อเรื่องวุ่นวายจบแล้ว ก็ได้เวลาพาโนบิตะวัยผู้ใหญ่กลับไปส่งที่งานแต่งงานในอนาคต แต่ก่อนจะไป โนบิตะวัยผู้ใหญ่ก็ได้ขอให้โดราเอม่อนพาเขาไปยังที่นึงก่อน นั่นคือวันที่โนบิตะเกิดขึ้นมา

โนบิตะทั้งคู่เข้าไปดูในห้องพยาบาลในวันที่เขาเกิด พ่อเริ่มขอเลิกงานกลับมาบ้านก่อน พอเจอลูกก็ดีใจ บอกว่าจะตั้งชื่อว่าโนบิตะ ซึ่งมีความหมายว่า...

"ให้เติบโตอย่างแข็งแรง และก้าวหน้าไปอย่างไม่สิ้นสุด"

มีเกร็ดเล็กน้อย คือมีโดราเอม่อนอยู่ตอนหนึ่ง ซึ่งน่าจะเป็นต้นแบบของภาคนี้ คือตอนที่โนบิตะในวัย 45 ปีย้อนเวลากลับมา แล้วได้สลับร่างกับโนบิตะวัยเด็กออกไปวิ่งเล่น ก่อนจะกลับไปโลกอนาคต โนบิตะตอนโตได้บอกกับโนบิตะตอนเด็กว่า "ในอนาคต ชีวิตของนายจะต้องล้มลุกคลุกคลานอีกหลายครั้ง แต่ในทุกๆ ครั้งนายก็จะลุกขึ้นมาและพยายามเดินต่อไป" ซึ่งสมกับชื่อโนบิตะที่พ่อตั้งให้ในตอนนี้มากๆ

โนบิตะตอนโตบอกว่าเขาพอใจแล้ว กลับไปโลกอนาคตได้แล้ว ...

เมื่อกลับมาถึงงานแต่งงาน โนบิตะก็ชี้ให้ดูว่ามีคนสองคนกำลังวิ่งออกจากงานไป นั่นก็คือโนบิตะและโดราเอม่อนตอนที่เพิ่งผละออกมาจากงานแต่งนั่นเอง

โนบิตะตอนเด็กบอกโนบิตะตอนโตว่า หลังจากนี้ก็เป็นหน้าที่ของนายแล้ว ให้กลับเข้างานแต่งไป แล้วโนบิตะกับโดราเอม่อนก็จากไป เพราะว่าจะไปพาคุณย่ามาดูงานแต่งงานตามที่สัญญาเอาไว้

โนบิตะตอนโตกลับไปเข้างานแต่งด้วยความมั่นใจ เขากล่าวสุทรพจน์ ขอบคุณคุณพ่อคุณแม่ที่ทำให้เขาเกิดมา อาจจะไม่ได้เรียนเก่ง (แบบแม่) เล่นกีฬาก็ไม่เอาไหน (ไม่เหมือนพ่อ) ขอบคุณคุณย่าที่คอยปลอบตอนเด็กๆ ขอบคุณที่ทำให้เขาเกิดมาในครอบครัวที่มีความสุข เขาสัญญาว่าจะสร้างครอบครัวที่มีความสุขแบบนี้กับชิซุกะให้ได้

แล้วทันได้นั้น โนบิตะก็ไปสะดุดตากับโนบิตะและโดราเอม่อนที่โผล่มาร่วมงานด้วยหลังต้นไม้ พร้อมกับคุณย่าที่กำลังซึ้งน้ำตาซึมอยู่อย่างปลื้มใจและภูมิใจ

หลังจากนั้น ชิซุกะก็ถามขึ้นว่าเมื่อกี้ที่มา ไม่ใช่โนบิตะใช่มั้ย ต้องเป็นคนอื่น ขอให้โดราเอม่อนช่วยอีกแล้วล่ะสิ ทั้งคู่เลยสวมแหวนให้กันอีกรอบ เพราะรอบแรกที่สวมไปแล้ว เป็นโนบิตะตอนเด็กตั้งหาก

หลังงานแต่งโนบิตะตอนเด็กกับโดราเอม่อนกับพาคุณย่าไปส่งในอดีตที่เดิม คุณย่าบอกว่าของคุณที่ทำให้ฝันของย่าเป็นจริง ขอบคุณที่รักษาสัญญากับย่า เหมือนคุณย่าจะรู้ว่าการพาย่าไปงานแต่งจะต้องลำบากมากแน่ๆ คุณย่าบอกว่าถ้าคิดถึงย่า ก็มาหาได้ ย่าจะอยู่ตรงนี้เสมอ

โนบิตะกับโดราเอม่อนก็นั่งไทม์แมชชีนกลับไปโลกปัจจุบัน แต่ระหว่างทางโนบิตะก็ยังทำซุ่มซ่าม ทำไม้เท้าหลงลืมฟาดใส่หัวตัวเอง โดราเอม่อนเลยถามว่านายจำได้ถึงตอนไหน โนบิตะบอกว่าจำได้แค่ว่าจะพาคุณย่าไปหาเจ้าสาว โดราเอม่อนเลยบอกว่างั้นไม่เป็นไรแล้ว งานนั้นเสร็จไปแล้วแล้วไม่ยอมเล่าอะไรเพิ่มอีกเลย

นั่นเลยเป็นสาเหตุว่าทำไมโนบิตะตอนโตเลยจำเหตุการณ์ในวันนี้ไม่ได้เลยนั่นเอง

และหนังก็จบลงตรงนี้...

141 Total Views 3 Views Today
Ta

Ta

สิ่งมีชีวิตตัวอ้วนๆ กลมๆ เคลื่อนที่ไปไหนโดยการกลิ้ง .. ถนัดการดำรงชีวิตโดยไม่โดนแสงแดด
ปัจจุบันเป็น Senior Software Engineer อยู่ที่ Centrillion Technology
งานอดิเรกคือ เขียนโปรแกรม อ่านหนังสือ เขียนบทความ วาดรูป และ เล่นแบดมินตัน

You may also like...